9 ความเชื่อสุดเพี้ยน ที่คนส่วนใหญ่มักเข้าใจผิดเกี่ยวกับสุนัข

9 ความเชื่อสุดเพี้ยน ที่คนส่วนใหญ่มักเข้าใจผิดเกี่ยวกับสุนัข

 

9 ความเชื่อประหลาดเกี่ยวกับสุนัขที่ควรทราบ

            ทั้งในไทย และต่างประเทศมักจะมีความเชื่อมากมายผิดๆเกี่ยวกับสุนัขอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งในวันนี้จะขอพาคุณผู้อ่านไปรู้จักกับความเชื่อเพี้ยนๆ เกี่ยวกับสุนัขที่บอกเล่ากันปากต่อปากจนกระทั่งกลายมาเป็นความเชื่อของท้องถิ่นไปโดยปริยาย ว่ามีความเชื่อเรื่องใดกันบ้าง

 

1.จมูกที่อุ่นมาก หรือแห้งมากหมายความว่าสุนัขตัวนั้นกำลังป่วย

ในความเป็นจริงแล้วอุณหภูมิ และความชื้นจมูกของสุนัขไม่ได้เป็นตัวแปรบอกให้ถึงสัญญาณความเจ็บป่วย แต่น้ำมูก หรือน้ำตาที่มากปกติแห้งเกรอะกรังเต็มใบหน้าต่างหาก เป็นสิ่งที่น่ากังวลจนควรพาสุนัขของคุณไปพบกับสัตวแพทย์ในเร็วที่สุด

 

2.สุนัขมีปากที่สะอาดกว่ามนุษย์

 ความจริงแล้วภายในปากของสุนัขอุดมไปด้วยเชื้อโรคชนิดต่างๆ เพราะพวกมันมักกินอาหารจากพื้นดิน ถังขยะ และเลียขาของตัวเอง ในขณะที่เจ้าของส่วนใหญ่ก็ไม่ได้แปรงฟันให้กับพวกมันในปริมาณที่พอเหมาะ แต่โดยส่วนใหญ่แล้วเชื้อโรคเหล่านี้จะไม่ส่งผลร้ายต่อมนุษย์ การจูบเพียงเล็กๆน้อยๆกับสุนัข จึงเป็นสิ่งที่สามารถทำได้

 

3.สุนัขมองเห็นทุกอย่างเป็นสีขาวดำ

ที่จริงแล้วสุนัขมองเห็นภาพเป็นสี โดยสามารถเห็นเป็นเฉดสีฟ้า เขียว เหลือง และสีเทา

 

4.สุนัขกินหญ้าเพื่อให้ตัวเองอาเจียน

 ในความเป็นจริงแล้วสุนัขชอบการกินหญ้า และเป็นความจริงที่ว่าหญ้าช่วยทำให้สุนัขอาเจียนออกมาได้ เมื่อมีปริมาณที่มากพอสำหรับสร้างความระคายเคืองให้กับกระเพาะอาหาร

 

5.อายุของสุนัข 7 ปี เท่ากับมนุษย์ 1 ปี

 ในความเป็นจริงแล้วสุนัขสายพันธุ์เล็ก และใหญ่จะมีช่วงการนับอายุที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งสายพันธุ์เล็กมักจะมีอายุที่ยืนยาวกว่าราว 15-20 ปี ในขณะที่สายพันธุ์ใหญ่ยักษ์จะมีอายุขัยเพียง 7-10 ปี เท่านั้น ดังนั้นหลักการนับอายุของสุนัข จึงไม่สามารถนำมาใช้ได้กับสุนัขทุกสายพันธุ์โดยรวม

 

6.ไม่สามารถสอนสุนัขแก่ได้

ในความเป็นจริงคุณสามารถทำการฝึกสุนัขแก่ได้ แต่เนื่องจากประสาทสัมผัส และความสามารถทางร่างกายที่ลดลงทำให้พวกมันตอบสนองต่อการฝึกของคุณน้อยลง ดังนั้นถ้าหากต้องการฝึกสุนัขแก่จริงๆ ก็ควรที่จะให้ความใส่ใจมากเป็นพิเศษ โดยใช้กิจกรรมที่ไม่เป็นภาระทางร่างกายมากจนเกินไป แต่ถ้าหากพวกมันชรามากจนเกินไป พวกมันก็จะเกิดความผิดปกติในความคิดจากความแก่ชรา จนไม่สามารถบันทึกข้อมูลสิ่งที่คุณสอนใหม่ๆเข้าไปได้

 

7.การกระดิกหางคือสัญญาณแห่งความสุข

ที่จริงแล้วการกระดิกหางเป็นเพียงหนึ่งในวิธีการสื่อสารของสุนัข ส่วนใหญ่แล้วแม้การกระดิกหางจะหมายถึงความสุข แต่ในบางครั้งมันก็หมายความถึงความกังวลใจต่อคนแปลกหน้า ดังนั้นสิ่งที่ดีที่สุดในการอ่านอารมณ์ของสุนัขคือ การให้ความสนใจต่อภาษากายโดยรวมของสุนัขเหล่านั้นมากกว่า

 

8.สุนัขเพศเมียควรมีลูกก่อนสักครอกก่อนถูกทำหมัน

ในความเป็นจริงสุนัขไม่เคยรู้สึก “ว่างเปล่า” เมื่อไม่มีลูกเหมือนกับมนุษย์ ในขณะเดียวกันสุนัขบางตัวก็ไม่สามารถเป็นแม่ที่ดีได้

 

9.การเล่นชักเย่อกับสุนัขทำให้เกิดพฤติกรรมก้าวร้าว

โดยแท้จริงแล้วสุนัขส่วนใหญ่มีความสุข และสนุกกับการเล่นชักเย่อกับเจ้าของ นอกจากนี้มันยังเป็นการช่วยแสดงออกถึงพฤติกรรมที่ก้าวร้าวตามธรรมชาติอย่างยอดเยี่ยม พร้อมกับช่วยเพิ่มความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าของกับตัวสุนัขอีกด้วย แต่อย่างไรก็ตามควรสังเกตสุนัขของคุณ ถ้าหากมันชนะแล้วก้าวร้าวขึ้น ให้คุณชักเย่อชนะในการแข่งขันเพื่อให้พวกมันเจียมเนื้อเจียมตัวลง แต่ถ้าหากคุณชนะอยู่เพียงฝ่ายเดียวตลอดเวลา สุนัขก็อาจจะสูญเสียความมั่นใจในตัวเองไปเป็นอย่างมากเช่นกัน

แบ่งปัน: